มัดรวมอาหารเสริมเพิ่มภูมิต้านทานโควิด

Highlight

• การคงไว้ซึ่งภูมิต้านทานที่ดีในระยะยาวคือ การมีไลฟ์สไตล์ที่ดี เช่น ไม่เครียด นอนแต่หัวค่ำ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทานอาหารครบหมู่
• อาหารเสริมที่มีผลต่อการสร้างภูมิต้านทาน เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินดี สังกะสี และโพรไบโอติก

ในยุคที่โควิดกำลังระบาด และสายพันธุ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ สิ่งที่ชาว New Normal จะทำได้คือการรักษาสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของไลฟ์สไตล์ รวมทั้งอาหารและวิตามินเสริม

เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายด้วยการปรับไลฟ์สไตล์ที่ดี

ลดความเครียด

หากิจกรรมทำยามว่าง หากปล่อยให้เกิดความเครียดสะสม จะกระตุ้นให้ร่างกายตอบสนองต่อเชื้อโรคต่างๆ ได้ไม่ดี 

นอนหลับให้เพียงพอ

ไม่นอนดึก เพราะการนอนหลับที่มีคุณภาพจะช่วยให้เกิดความสมดุลของของโปรตีนที่เรียกว่าไซโตไคน์  ซึ่งถูกสร้างจากเซลล์ระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยสื่อสารและปกป้องร่างกายเวลาเจอสิ่งแปลกปลอม 

ออกกำลังกายบ่อยๆ

ออกกำลังกาย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด ทำให้เซลล์ในร่างกายได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้น เม็ดเลือดขาวแข็งแรงขึ้นและเพิ่มจำนวนได้  

กินอาหารสมดุล

พยายามทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทานผักผลไม้หลากสี ทานเนื้อสัตว์ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม

งดอาหารแปรรูป

หลีกเลี่ยงอาหารผ่านการแปรรูป เช่น แฮม เบคอน ไส้กรอก แหนม และอาหารปิ้งย่างเขม่าดำ อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำหวาน รวมทั้งหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์

8 วิตามินเสริมภูมิคุ้มกันช่วงโควิด-19 

วิตามินเอ

มีการวิจัยของ ดร.โรนัลด์ วัตสัน (Ronald R Watson) แห่งมหาวิทยาลัยแอริโซนา กล่าวว่า “การทานผักผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีนสูง  (Beta-Carotene) ช่วยส่งเสริมภูมิต้านทานให้แข็งแรงได้” โดยในแต่ละวัน เราสามารถรับวิตามินเอ (Vitamin A) เข้าสู่ร่างกายได้จากการทานเนื้อสัตว์ ปลา ตับ รวมถึงแครอท ฟักทอง หรือ ในรูปแบบอาหารเสริม ขนาด 1,000-5,000 IU ส่วนหญิงตั้งครรภ์ไม่ควรทานอาหารเสริมกลุ่มวิตามินเอ

วิตามินซี

พบมากในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ฝรั่ง ลิ้นจี่จักรพรรดิ รวมทั้งพริกหวาน มีหลายงานวิจัย ระบุว่า วิตามินซีมีส่วนช่วยการทำงานของเม็ดเลือดขาว lymphocyte รวมถึง neutrophil ในกระบวนการจับกินเชื้อโรค (phagocytosis) ขนาดที่แนะนำคือ 500-2,000 มก./วัน และควรกินหลังอาหารลดการระคายเคืองในกระเพาะจากกรด Ascorbic ส่วนช่วงเวลาที่ดีในการทานวิตามิซีคือ ช่วงเช้า เนื่องจากไตจะทำงานได้เต็มที่  ลดโอกาสการตกค้าง

วิตามินดี

พบมากในอาหารพวกปลา เช่น ปลานิล ปลาทับทิม ปลาตะเพียน ปลาแซลมอน ปลาแมคคอแรล ปลาทูน่ากระป๋อง ไข่แดง และ ตับ ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมการดูซึมของแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานดีขึ้นมาก ขนาดของวิตามิน D3 ที่แนะนำคือ  3,000-5,000 IU ต่อวัน ส่วนการตากแดดช่วงเช้า หรือเย็นเพื่อไปรับวิตามินดีนั้น เนื่องจากหลายคนไม่มีเวลาและการตากแดดนานๆย่อมเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง ดังนั้นควรเลือกทานอาหารหรืออาหารเสริมมากกว่า

สังกะสี

พบมากในหอยนางรมและเมล็ดฟักทอง ช่วยลดการเกาะติดไวรัสกับเซลล์ จึงช่วยลดอาหารอักเสบ ช่วยฟื้นฟูกับรับกลิ้นและรสในผู้ป่วยโควิด อีกทั้งยังลดอาการแทรกซ้อนต่างๆได้อีกด้วย ในอาหารเสริม ขนาดที่แนะนำคือ 15-30 มิลลิกรัมต่อวัน

กรดอะมิโนซีสเทอีน

หรือยาละลายเสมหะ N-Acetyl-cysteine ซึ่งนอกจากจะมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกันในปอด เพิ่มกลูตาไธโอนในตับ ช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาวมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขนาดที่แนะนำในการป้องกันหรือบรรเทาอาการ คือ 600-1,200 มก./วัน

วิตามินบี 6

พบมากในเนื้อสัตว์ ปลา ไก่ กล้วย แตงโม นม ไข่แดง ข้าวกล้อง รำข้าว จมูกข้าวสาลี ถั่วต่าง ๆ บทบาทการป้องกันของวิตามิน B6 ในการบรรเทาความรุนแรงของ COVID-19 ในผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อน ในคนที่มีโรคประจำตัวเช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด และเบาหวาน กลไกที่เป็นไปได้คือ ลดการอักเสบของพายุไซโตไคน์ ที่เกิดจากระบบภูมิต้านทานล้มเหลวหลังจากได้รับเชื้อก่อโรคโควิด

โอเมกา 3

ที่ได้จากน้ำมันปลา ช่วยลดการอักเสบของร่างกาย จากการหลั่งสารอักเสบไซโคไคน์ที่มากเกินหลังการต่อสู้กับเชื้อโรค ขนาดที่แนะนำของ omega-3 ในน้ำมันปลา ควรเลือก EPA/DHA โดยให้ค่าทั้งสองตัวรวมกันเข้าใกล้ 1,000 หน่วย/วัน

โพรไบโอติกส์

จุลินทรีย์ตัวดีในลำไส้ ที่พบใน กิมจิ นัตโตะ โยเกิร์ต ซึ่งมีความสำคัญกับภูมิคุ้มกันเป็นอย่างมาก เพราะลำไส้ถือเป็นสมองที่สองของร่างกาย มีระบบการสั่งการประสาทอัตโนมัติของตัวเอง และมีต่อมน้ำเหลืองที่มีความสำคัญในการผลิตเม็ดเลือดขาว (Payer’s patches) ดังนั้น การเติมจุลินทรีย์ที่ดีให้ร่างกายก็เสมือนการเติมทหารภูมิคุ้มกันในลำไส้ โดยเฉพาะจุลินทรีย์สายพันธุ์ Lactobacillus plantarum และ Lactobacillus rhamnosus ที่ช่วยลดอาการในทางเดินหายใจได้ดี หรือเสริมด้วยอาหารเสริมที่มีจุลินทรีย์ดีสูงประมาณ 10,000 ล้านตัวต่อวัน