ลูกโตตามวัยพัฒนาไกลด้วยสารอาหาร

รวมสารอาหารสำหรับเด็กที่จำเป็นเพื่อช่วยการพัฒนา

พ่อแม่ทุกคนล้วนอยากเห็นลูกเติบโตสมวัย ไม่เจ็บ ไม่ป่วย มีสุขภาพแข็งแรง หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่จะทำให้ถึงเป้าหมายได้ดังใจพ่อแม่ก็คือ “สารอาหาร” นั่นเอง ที่ต้องใช้คำว่า “สารอาหาร” แทนคำว่า “อาหาร” เพราะอาหารบางประเภทก็มีประโยชน์มาก บางประเภทก็มีประโยชน์น้อย เวลารับประทานเราจึงใส่ใจกับสารอาหารที่จะได้รับ มากกว่ากินให้เสร็จไปแต่ละมื้อพอให้ท้องอิ่มโดยไม่ได้คำนึงถึงว่าร่างกายจะได้ประโยชน์อะไรจากสิ่งที่กินไปบ้าง
สารอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญต่อสุขภาพลูกตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ คุณแม่ที่ได้รับสารอาหาร วิตามิน หรือเกลือแร่ไม่เพียงพอขณะตั้งครรภ์จะส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูก ตัวอย่างเช่น สาเหตุที่หมอจ่ายกรดโฟลิกให้แม่ตั้งครรภ์กินเสริมตั้งแต่แรกรู้ว่ามีชีวิตน้อย ๆ กำลังเจริญเติบโตอยู่ในท้องแม่ ก็เพราะการขาดกรดโฟลิกทำให้เด็กมีการพัฒนาที่ไม่สมบูรณ์ เกิดมามีความพิการทางสมองและระบบประสาท และรุนแรงจนกระทั่งเสียชีวิตตั้งแต่แบเบาะได้ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องรับประทานอาหารให้เพียงพอทั้งในแง่ของปริมาณและความหลากหลายของชนิดอาหาร เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วนเพื่อนำไปใช้ในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกน้อย
สำหรับอาหารที่ทารกแรกคลอดและเด็กควรได้รับต้องยึดตามพัฒนาการของร่างกาย เด็กที่จะเริ่มรับประทานได้ต้องคอแข็ง นั่งได้ กลืนได้ และทางเดินอาหารต้องพร้อมย่อยอาหารชนิดอื่นที่นอกเหนือไปจากน้ำนม อาหารตามวัยที่เด็กควรได้รับแบ่งตามช่วงอายุ ได้เป็น

อาหารตามวัยที่เด็กควรได้รับแบ่งตามช่วงอายุ ได้เป็น 

– ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงหกเดือน รับประทานนมเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นนมแม่ หรือนมผสมในกรณีที่แม่ไม่สบาย มีน้ำนมไม่เพียงพอ หรือไม่สามารถให้นมได้ด้วยตนเอง
– อายุ 6 เดือนขึ้นไป รับประทานนมเป็นหลักและเริ่มป้อนอาหารบดละเอียด วันละ 1 มื้อ
– อายุ 9 เดือนขึ้นไป เพิ่มอาหารเป็น 2 มื้อ ลักษณะอาหารควรเป็นอาหารอ่อนนุ่มที่มีความข้นเพิ่มขึ้น
– อายุ 1 ปีขึ้นไป เพิ่มอาหารเป็น 3 มื้อ อาหารที่ป้อนอาจมีความหยาบมากขึ้น หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ และให้นมเสริมจากอาหารวันละ 3 มื้อ
นอกจากจำนวนมื้ออาหารจะสำคัญแล้ว ขอย้ำอีกครั้งว่าสารอาหารที่ลูกได้รับก็เป็นสิ่งที่ผู้ปกครองควรคำนึงถึง เพราะสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีอยู่ในประเภทอาหารที่แตกต่างกัน ดังนั้นพ่อแม่ต้องฝึกให้ลูกรับประทานอาหารให้แตกต่างกันไปในแต่ละมื้อ แต่ละวันตั้งแต่ยังเล็ก ไม่เสิร์ฟแต่เมนูเดิม ๆ ที่เป็นเมนูโปรดตามใจลูก เพื่อลูกจะได้ยอมรับรสชาติ-สัมผัสของอาหารที่หลากหลาย และได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน

สารอาหารที่สำคัญสำหรับเด็ก

สารอาหารที่สำคัญสำหรับเด็กและพบว่าเด็กไทยมักได้รับจากอาหารไม่เพียงพอ ได้แก่
ธาตุเหล็ก
ร่างกายของเราได้รับธาตุเหล็กจากอาหารถึง 90% สามารถพบได้มากในอาหารประเภทตับ ไข่แดง เนื้อสัตว์ พบว่าเด็กที่กินแต่นมจึงมีโอกาสขาดธาตุเหล็กได้
ไอโอดีน 
ไอโอดีนมีหน้าที่ในการพัฒนาสมอง จำเป็นต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ และการเจริญเติบโตของร่างกาย พ่อแม่สามารถเสริมไอโอดีนให้ลูกได้ง่าย ๆ ในราคาไม่แพง ด้วยการเลือกใช้เกลือผสมไอโอดีนปรุงอาหาร
แคลเซียม 
แคลเซียมเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูกและฟัน จึงจำเป็นในทุกวัย โดยเฉพาะในเด็กที่กำลังเจริญเติบโต
สังกะสี 
แม้ร่างกายจะต้องการสังกะสีจำนวนเพียงเล็กน้อย แต่สังกะสีมีบทบาทสำคัญกับการทำงานของร่างกาย เพราะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต ทำให้ร่ายกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง สังกะสีพบได้ในเนื้อสัตว์และอาหารทะเล
วิตามินเอ
วิตามินเองช่วยสร้างเสริมเซลล์และระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยในการมองเห็น พบได้ในตับ ไข่แดง ผักใบเขียวเข้ม และผักผลไม้สีเหลือง-ส้ม

อยากรู้ว่าลูกโตตามวัย พัฒนาการตามอายุหรือไม่ ต้องทำอย่างไร? ง่ายที่สุดและเชื่อถือได้แน่นอนสอบถามจากคุณหมอประจำตัวของลูกเมื่อพาลูกไปฉีดวัคซีน เพราะทุกครั้งคุณหมอจะประเมินการเจริญเติบโตของเด็ก โดยพิจารณาจากส่วนสูงและน้ำหนักว่าลูกโตเหมาะสมกับอายุของเขาหรือไม่ พ่อแม่จึงใช้ข้อมูลนี้เป็นแนวทางในการดูแลเรื่องอาหารของลูกได้ หากพ่อแม่บ้านไหนกังวลว่าลูกจะได้รับสารอาหาร วิตามิน หรือเกลือแร่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายสามารถปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรที่ร้านยาเพื่อให้แนะนำผลิตภัณฑ์เสริมสำหรับเด็กที่เหมาะสมได้
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็กมีทั้งเป็นชนิดเดี่ยว เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินซี หรือบางชนิดก็เป็นสูตรผสมที่รวมวิตามินและเกลือแร่หลายชนิดเข้าด้วยกันในขวดเดียวเพื่อให้เด็กรับประทานได้ง่าย ดังนั้นก่อนซื้อมาให้ลูกรับประทานคุณพ่อคุณแม่ต้องทราบว่าต้องการให้ลูกเสริมวิตามินหรือเกลือแร่ชนิดใด เพราะเหตุใด เช่น หากต้องการเสริมวิตามินเอ ต้องซื้อ “น้ำมันตับปลา” ไม่ใช่ “น้ำมันปลา” เพราะในน้ำมันตับปลามีวิตามินเอและวิตามินดีสูง ขณะที่ในน้ำมันปลาถึงแม้จะมีชื่อคล้ายกันและได้จากปลาเหมือนกัน แต่น้ำมันปลาหรือ fish oil นั้นอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมกา-3 ไม่ใช่วิตามินเอและวิตามินดี บ้านไหนที่ลูกมีประวัติแพ้อาหารมาก่อน ต้องอ่านฉลากให้ละเอียดเพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางอย่างมีแหล่งที่มาจากอาหารทะเลหรือมีส่วนผสมของนมวัว ซึ่งเป็นอาหารที่ก่อให้เกิดการแพ้ได้บ่อยในเด็ก
นอกจากชนิดแล้วปริมาณที่ถูกต้องก็สำคัญเช่นกัน ต้องอ่านฉลากให้ละเอียดว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีเกณฑ์ในการให้อย่างไร ให้ตามน้ำหนักหรือตามอายุ ควรรับประทานก่อนอาหารหรือหลังอาหาร ที่สำคัญผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็กมักผลิตมาให้มีรสชาติอร่อยถูกปากเด็ก หลังการป้อนแต่ละมื้อจึงควรเก็บให้พ้นมือเด็ก ป้องกันเด็กหยิบรับประทานเองและอาจทำให้ได้รับเกินขนาดได้ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็กที่ผลิตในรูปเจลลี่ บางยี่ห้อมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ เมื่อรับประทานแล้วควรให้เด็กดื่มน้ำตามและแปรงฟันให้สะอาด นอกจากนั้นขณะรับประทานพ่อแม่ควรดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในเด็กเล็ก เพราะเจลลี่มีความเหนียวหากเคี้ยวไม่ละเอียดอาจติดคอได้
สุดท้ายอยากเชียร์ให้คุณพ่อคุณแม่ซื้อวิตามินหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผลิตหรือนำเข้ามาในประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีฉลากภาษาไทยที่ให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน เพราะการซื้อ “ของหิ้ว/พรีออเดอร์” จากต่างประเทศโดยไม่ผ่าน อ.ย. ไทยจะมีแต่ฉลากภาษาต่างประเทศ ใส่อะไรบ้างก็ไม่รู้ กินอย่างไรก็ไม่รู้ อะไรเป็นข้อควรระวังบางครั้งผู้ขายเองก็บอกไม่ได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของลูก เลือกผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้เถอะค่ะ เภสัชขอร้อง!

รวมสินค้าแนะนำ