ความสำคัญของวิตามินกับสมรรถภาพทางเพศของคุณผู้ชาย
ภาวะในปัจจุบันนี้ ที่มีความเร่งรีบในการใช้ชีวิต ทั้งการกินการอยู่ของเรา ในบางครั้งอาจจะมีการพร่องวิตามินหรือสารอาหารบางตัวโดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ ดังนั้นเราอาจต้องหมั่นสังเกตว่าสุขภาพของเรามีปัญหาหรือไม่ ในตัวอย่างนี้ผมอยากจะยกตัวอย่างของอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็พบอาการเหล่านี้ได้มากขึ้นในกลุ่มของคุณผู้ชายที่มีอายุน้อยลง ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะไม่ได้เกิดจากความเสื่อมหรือความแก่เพียงอย่างเดียวแล้ว แต่มีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้อง อาทิเช่น
- การพร่องของวิตามินบางตัว ที่มีผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย ได้แก่ L-arginine, Vitamin D,E, DHEA, Zinc, Niacin, Magnesium ซึ่งผมจะอธิบายความสำคัญในแต่ล่ะตัวว่ามีความสำคัญอย่างไรในด้านของสมรรถภาพทางเพศชาย
- โรคประจำตัว (เบาหวาน,ความดันโลหิตสูง,ไขมันในโลหิตสูง, Long COVID,โรคนอนกรน (OSA) ซึ่งกลุ่มนี้จะมีปัญหาเรื่องของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้ลดลง
- ปัญหาเรื่องความเครียด และการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
วิตามินที่มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศชาย
1.L-arginine
เป็นกรดอะมิโนที่อยู่ในอาหารกลุ่มโปรตีน โดยช่วยในคุณผู้ชายที่มีปัญหานกเขาไม่ขัน เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โดย อาร์จีนีน จะเข้าไปทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ส่งผลให้น้องชายมีเลือดไปเลี้ยงได้เต็มที่ โดยเพิ่มการสร้างสาร Nitric oxide ช่วยให้ประสิทธิภาพการแข็งตัวดีขึ้น
2.Vitamin D
โดยร่างกายของเราสามารถผลิดได้เองโดยการออกแดดอ่อนๆในตอนเช้าหรือเย็น แต่ปัจจุบันการใช้ชีวิตและการทำงานโอกาสที่จะได้โดนแดดนั้นน้อยลงจึงเจอภาวะพร่องวิตามินดีเพิ่มขึ้น โดยปกติวิตามินดี จะเป็นตัวที่เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ กระดูก และภูมิคุ้มกันของร่างกาย แต่ในปัจจุบันได้มีการศึกษาเรื่องของวิตามินดีกันสมรรถภาพทางเพศชายโดยพบความสัมพันธ์ระหว่างการพร่องวิตามินดีกับสมรรถภาพทางเพศโดย ตัววิตามินดีจะช่วยเยื่อบุเซลล์ในการเพิ่มปริมาณ Nitric Oxide เพื่อช่วยในการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย
3.Vitamin E
เราคงเคยได้ยินประโยชน์ของวิตามินอี ในเรื่องของตัวต้านอนุมูลอิสระ ในด้านของผิวพรรณ และปรับสมดุลฮอร์โมน แต่อีกบทบาทของวิตามินอี ยังมีเรื่องของการช่วยเรื่องการเพิ่มปริมาณอสุจิ และเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือฮอร์โมนเพศชายได้
4.ฮอร์โมน DHEA (Dehydroepiandrosterone)
เป็นฮอร์โมนที่ร่างกายสร้างจากต่อมหมวกไต โดยหน้าที่ฮอร์โมนตัวนี้คือ ทำให้เรามีเรี่ยวแรงกำลังที่จะทำงาน โดยผู้ที่มีภาวะพร่อง DHEA จะมีอาการอ่อนเพลีย แรงหมด โดยมักเป็นช่วงกลางวัน และ DHEA ยังทำหน้าที่เปลี่ยนไปเป็นฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือฮอร์โมนเพศชายอีกด้วย โดยระดับของ DHEA จะเริ่มลดลงตั้งแต่อายุ 35-40 ปี รวมถึงภาวะเครียดอดหลับอดนอน ก็จะทำให้ระดับฮอร์โมนตัวนี้ลดลงด้วย หากต้องการเสริมการอาจจะทานอาหารเสริมในกลุ่มโสม, วิตามินซี ร่วมกับการออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ แต่หากระดับต่ำมากอาจต้องปรึกษาแพทย์
5.Zinc
มีความสำคัญในระดับเซลล์ คือ เป็นตัวช่วยในเรื่องของเมตาบอลิซึมของเซลล์ รวมถึงมีการศึกษาว่าการทาน Zinc เสริมสามารถช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
6.Niacin
หรือ Vitamin B3 ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าในตัวไนอะซิน จะมีผลต่อการเพิ่มพลังงาน เพิ่มเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศ ดังนั้นจึงช่วยในเรื่องของการแข็งตัว
7.Magnesium
เป็นเกลือแร่สำคัญในร่างกาย เป็นส่วนประกอบของเอมไซม์หลากหลายชนิด โดยในเรื่องที่เกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศนั้นคือ ตัวแมกนีเซียมเองยังมีฤทธิ์ที่ช่วยในเรื่องของการผ่อนคลาย ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอน ลดความเครียดได้ ดังนั้นเมื่อเราทานแมกนีเซียมแล้วมีการพักผ่อนที่ดี รวมถึงภาวะจิตใจที่ดีการจะช่วยในเรื่องนี้ให้ดีขึ้น ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาด้านการนอนหลับ และความเครียด
สรุปจากที่กล่าวมาปัญหาเรื่องของการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศของคุณผู้ชาย ในปัจจุบันเริ่มเจอมากขึ้นโดยเหตุปัจจัยอาจมาจากหลายอย่าง ตั้งแต่ โรคประจำตัวซึ่งต้องคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี การออกกำลัง การนอนหลับ และความเครียด แต่อยากให้พวกเราได้หันมาดูแลเรื่องของวิตามินที่บางครั้งเราอาจจะมีภาวะพร่องและมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป จนเกิดปัญหาต่างๆตามมาได้
สรุปจากที่กล่าวมาปัญหาเรื่องของการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศของคุณผู้ชาย ในปัจจุบันเริ่มเจอมากขึ้นโดยเหตุปัจจัยอาจมาจากหลายอย่าง ตั้งแต่ โรคประจำตัวซึ่งต้องคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี การออกกำลัง การนอนหลับ และความเครียด แต่อยากให้พวกเราได้หันมาดูแลเรื่องของวิตามินที่บางครั้งเราอาจจะมีภาวะพร่องและมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป จนเกิดปัญหาต่างๆตามมาได้